Adrenaline
ประเภท ยากระตุ้นการทำงานของหัวใจ
ข้อบ่งใช้ รักษาภาวะหัวใจวาย ทำให้หลอดเลือดหดตัว ใช้รักษาภาวะความดันโลหิตต่ำ ช็อก และการไหลเวียนเลือดที่หัวใจและสมองลดลง
การออกฤทธิ์ กระตุ้นจุดรับ A และ B-adrenergic ภายในระบบซิมพาเธติค ทำให้เพิ่มทั้งความดันโลหิตค่าบนและค่าล่าง เพิ่มความแรงในการหดตัวของกล้ามเนื้อหัวใจ เพื่อให้เลือดไปเลี้ยงหัวใจและสมองมากขึ้น
ผลข้างเคียง หากได้รับยาเป็นเวลานาน ๆ จะทำให้เกิดปฏิกิริยากับหัวใจและการไหลเวียน เช่น เกิดความดันโลหิตสูง ชีพจรเต้นเร็ว หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ เป็นต้น
การพยาบาล
1. ติดตามสังเกตสัญญาณชีพ และปริมาณปัสสาวะอย่างใกล้ชิด
2. รายงานแพทย์ทราบ เมื่อจังหวะการเต้นของหัวใจผิดจังหวะ และเตรียมพร้อมให้การรักษาโดยการให้ Adrenaline ทางหลอดเลือดดำ อาจตามด้วยสารน้ำ 20 มิลลิลิตร เพื่อไล่ยาให้เข้าไปใน Central compartment
วันจันทร์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2562
Magnesium sulfate
Magnesium sulfate
ประเภท ยาระงับชัก
ข้อบ่งใช้ รักษาอาการชักที่เกิดจาก Toxemia of pregnancy, Epilepsy หรือเมื่อมรระดับ Magnesium ต่ำซึ่งมีส่วนทำให้เกิดอาการชัก เช่น ภาวะ hypothyroidism, Glomerulonephritis ในผู้ป่วย Eclampsia ในผู้ป่วยเด็กที่มี Acute nephritis เพื่อควบคุมความดันโลหิตสูง Encephalopathy และอาการชัก ใช้ทดแทนการขาด Magnesium ให้ร่วม TPN และใช้เป็นยาระบาย
การออกฤทธิ์ หากให้ทางหลอดเลือดดำ ยาจะออกฤทธิ์กด CNS และกดกล้ามเนื้อเรียบ กล้ามเนื้อลาย และกล้ามเนื้อหัวใจ ระงับการชัก (โดยกดประสาท CNS และลดการหลั่ง Acetylcholine ทำให้กั้นการทำงานของระบบประสาทและกล้ามเนื้อส่วนปลาย)
ผลข้างเคียง อาจเกิดภาวะแมกนีเซียมเกินในเลือด ได้แก่ หน้าแดง เหงื่อออก กระหายน้ำ ความดันโลหิตต่ำ ง่วงหลับ สับสน กล้ามเนื้ออ่อนแรง อัมพาต อุณหภูมิต่ำ กดการหายใจของหัวใจและมีภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำ
การพยาบาล
1. ตรวจสอบความดันโลหิตสูงและชีพจรทุก 15 นาที และตรวจหาระดับแมกนีเซียมในซีรั่มเป็นระยะๆ
2. สังเกตอาการพิษจากแมกนีเซียมเกิน เช่น อาการกระหายน้ำอย่างรุนแรง รู้สึกร้อน มึนงง สับสน Deep tendon reflexes ถูกกด กล้ามเนื้ออ่อนแรง เป็นต้น ตรวจระดับแคลเซียมและฟอสฟอรัส บันทึกความสมดุลของน้ำดื่มและปัสสาวะ
ประเภท ยาระงับชัก
ข้อบ่งใช้ รักษาอาการชักที่เกิดจาก Toxemia of pregnancy, Epilepsy หรือเมื่อมรระดับ Magnesium ต่ำซึ่งมีส่วนทำให้เกิดอาการชัก เช่น ภาวะ hypothyroidism, Glomerulonephritis ในผู้ป่วย Eclampsia ในผู้ป่วยเด็กที่มี Acute nephritis เพื่อควบคุมความดันโลหิตสูง Encephalopathy และอาการชัก ใช้ทดแทนการขาด Magnesium ให้ร่วม TPN และใช้เป็นยาระบาย
การออกฤทธิ์ หากให้ทางหลอดเลือดดำ ยาจะออกฤทธิ์กด CNS และกดกล้ามเนื้อเรียบ กล้ามเนื้อลาย และกล้ามเนื้อหัวใจ ระงับการชัก (โดยกดประสาท CNS และลดการหลั่ง Acetylcholine ทำให้กั้นการทำงานของระบบประสาทและกล้ามเนื้อส่วนปลาย)
ผลข้างเคียง อาจเกิดภาวะแมกนีเซียมเกินในเลือด ได้แก่ หน้าแดง เหงื่อออก กระหายน้ำ ความดันโลหิตต่ำ ง่วงหลับ สับสน กล้ามเนื้ออ่อนแรง อัมพาต อุณหภูมิต่ำ กดการหายใจของหัวใจและมีภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำ
การพยาบาล
1. ตรวจสอบความดันโลหิตสูงและชีพจรทุก 15 นาที และตรวจหาระดับแมกนีเซียมในซีรั่มเป็นระยะๆ
2. สังเกตอาการพิษจากแมกนีเซียมเกิน เช่น อาการกระหายน้ำอย่างรุนแรง รู้สึกร้อน มึนงง สับสน Deep tendon reflexes ถูกกด กล้ามเนื้ออ่อนแรง เป็นต้น ตรวจระดับแคลเซียมและฟอสฟอรัส บันทึกความสมดุลของน้ำดื่มและปัสสาวะ
Vancomycin
Vancomycin
ประเภท ยาปฏิชีวนะต้านจุลชีพ
ข้อบ่งใช้ รักษาการติดเชื้อ Pseudomembranous colitis เนื่องจาก Clostridium difficile เชื้อ Staphylococcal
การออกฤทธิ์ ออกฤทธิ์โดยจับกับผนังเซลล์ของแบคทีเรีย ทำให้หยุดการสังเคราะห์โปรตีน และผนังเยื่อบุไซโตพลาสซึมแตกออก ออกฤทธิ์ทั้งฆ่าเชื้อและยับยั้งการเจริญเติบโตขอองเชื้อแบคทีเรียกลุ่ม Enterococci ดูดซึมได้ไม่ดีในทางเดินอาหาร ถูกขับออกทางไต
ผลข้างเคียง ทำให้หูหนวก ไตเสียหน้าที่ มีอาการหนาวสั่น ผื่นแดงที่คอและหลัง มีไข้ ความรู้สึกฝั่นเฝือน ผื่นลมพิษ ความดันโลหิตต่ำ เม็ดเลือดขาวต่ำ อาจเกิดอาการอักเสบของหลอดเลือดดำบริเวณที่ฉีด
การพยาบาล
1. ประเมินหน้าที่การทำงานของไต การได้ยิน และผลข้างเคียง โดยการสังเกตอาการ ตรวจเลือดหา CBC, BUN, Creatinine, Albumin, Urinalysis
2. หากฉีดทางหลอดเลือดดำ 500 มิลลิกรัม ผสมสารน้ำ 100 มิลลิลิตร หยดในเวลา 45 - 60 นาที
ประเภท ยาปฏิชีวนะต้านจุลชีพ
ข้อบ่งใช้ รักษาการติดเชื้อ Pseudomembranous colitis เนื่องจาก Clostridium difficile เชื้อ Staphylococcal
การออกฤทธิ์ ออกฤทธิ์โดยจับกับผนังเซลล์ของแบคทีเรีย ทำให้หยุดการสังเคราะห์โปรตีน และผนังเยื่อบุไซโตพลาสซึมแตกออก ออกฤทธิ์ทั้งฆ่าเชื้อและยับยั้งการเจริญเติบโตขอองเชื้อแบคทีเรียกลุ่ม Enterococci ดูดซึมได้ไม่ดีในทางเดินอาหาร ถูกขับออกทางไต
ผลข้างเคียง ทำให้หูหนวก ไตเสียหน้าที่ มีอาการหนาวสั่น ผื่นแดงที่คอและหลัง มีไข้ ความรู้สึกฝั่นเฝือน ผื่นลมพิษ ความดันโลหิตต่ำ เม็ดเลือดขาวต่ำ อาจเกิดอาการอักเสบของหลอดเลือดดำบริเวณที่ฉีด
การพยาบาล
1. ประเมินหน้าที่การทำงานของไต การได้ยิน และผลข้างเคียง โดยการสังเกตอาการ ตรวจเลือดหา CBC, BUN, Creatinine, Albumin, Urinalysis
2. หากฉีดทางหลอดเลือดดำ 500 มิลลิกรัม ผสมสารน้ำ 100 มิลลิลิตร หยดในเวลา 45 - 60 นาที
วันอาทิตย์ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2562
สารน้ำ 5%DNSS 5%DN/3
5% D/NSS
น้ำเกลือชนิดนี้เป็นคือน้ำเกลือนอร์มัลซาไลน์ที่มีส่วนผสมของน้ำตาลเดกซ์โทรสความเข้มข้น 5% มักใช้ในเด็กที่มีภาวะขาดน้ำ ช็อก อดอาหาร ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ หรือเด็กที่เป็นไข้เลือดออก
ข้อบ่งใช้ ให้น้ำเกลือก็เนื่องจากผู้ที่ป่วยหรือสูญเสียน้ำในร่างกายมากเกินไปจะมีปริมาณเกลือแร่ในร่างกายต่ำ จนอาจจะทำให้เกิดการอ่อนเพลีย ซึมเศร้า และอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตได้ การให้น้ำเกลือก็เพื่อไปเติมปริมาณเกลือแร่ และแร่ธาตุต่าง ๆ ในร่างกายให้กลับคืนสู่ระดับปกติของร่างกาย
ประโยชน์ การให้น้ำเกลือผ่านทางสายยางเข้าสู่เส้นเลือดนั้นมีประโยชน์เพื่อช่วยรักษาสมดุลของน้ำและสารน้ำในร่างกาย รวมทั้งรักษาสมดุลของความเป็นกรดด่างของเกลือแร่ในร่างกายอีกด้วย นอกจากนี้ในกรณีที่ร่างกายสูญเสียพลังงานอย่างหนัก น้ำเกลือก็สามารถช่วยทดแทนพลังงานได้ชั่วคราวอีกด้วย ทำให้ร่างกายไม่อ่อนเพลีย
ข้อควรระวังในการใช้น้ำเกลือ
1. ห้ามใช้ในผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจ โรคไตวาย โรคความดันโลหิตสูง หรือผู้ที่มีอาการร่างกายบวม ภาวะน้ำคั่งในปอด หรือปอดบวมน้ำ
2. ควรรักษาความสะอาดของอุปกรณ์ที่ใช้ให้น้ำเกลือ เพราะหากอุปกรณ์ที่ใช้ในการให้น้ำเกลือไม่สะอาด อาจจะทำให้เกิดการอักเสบหรือติดเชื้อได้
3. ควรระมัดระวังในเรื่องของฟองอากาศ เพราะหากในสายน้ำเกลือมีฟองอากาศ ฟองอากาศเหล่านั้นก็จะเข้าไปในหลอดเลือดดำและเข้าสู่หัวใจซึ่งทำให้เป็นอันตรายได้
4. ควรเลือกน้ำเกลือที่มีความเข้มข้นของเกลือเท่ากับความเข้มข้นของเกลือในเลือด เพราะหากร่างกายได้รับเกลือแร่ที่มีความเข้มข้นเกินไปอาจจะทำให้เสียชีวิตได้
น้ำเกลือชนิดนี้เป็นคือน้ำเกลือนอร์มัลซาไลน์ที่มีส่วนผสมของน้ำตาลเดกซ์โทรสความเข้มข้น 5% มักใช้ในเด็กที่มีภาวะขาดน้ำ ช็อก อดอาหาร ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ หรือเด็กที่เป็นไข้เลือดออก
ข้อบ่งใช้ ให้น้ำเกลือก็เนื่องจากผู้ที่ป่วยหรือสูญเสียน้ำในร่างกายมากเกินไปจะมีปริมาณเกลือแร่ในร่างกายต่ำ จนอาจจะทำให้เกิดการอ่อนเพลีย ซึมเศร้า และอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตได้ การให้น้ำเกลือก็เพื่อไปเติมปริมาณเกลือแร่ และแร่ธาตุต่าง ๆ ในร่างกายให้กลับคืนสู่ระดับปกติของร่างกาย
ประโยชน์ การให้น้ำเกลือผ่านทางสายยางเข้าสู่เส้นเลือดนั้นมีประโยชน์เพื่อช่วยรักษาสมดุลของน้ำและสารน้ำในร่างกาย รวมทั้งรักษาสมดุลของความเป็นกรดด่างของเกลือแร่ในร่างกายอีกด้วย นอกจากนี้ในกรณีที่ร่างกายสูญเสียพลังงานอย่างหนัก น้ำเกลือก็สามารถช่วยทดแทนพลังงานได้ชั่วคราวอีกด้วย ทำให้ร่างกายไม่อ่อนเพลีย
ข้อควรระวังในการใช้น้ำเกลือ
1. ห้ามใช้ในผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจ โรคไตวาย โรคความดันโลหิตสูง หรือผู้ที่มีอาการร่างกายบวม ภาวะน้ำคั่งในปอด หรือปอดบวมน้ำ
2. ควรรักษาความสะอาดของอุปกรณ์ที่ใช้ให้น้ำเกลือ เพราะหากอุปกรณ์ที่ใช้ในการให้น้ำเกลือไม่สะอาด อาจจะทำให้เกิดการอักเสบหรือติดเชื้อได้
3. ควรระมัดระวังในเรื่องของฟองอากาศ เพราะหากในสายน้ำเกลือมีฟองอากาศ ฟองอากาศเหล่านั้นก็จะเข้าไปในหลอดเลือดดำและเข้าสู่หัวใจซึ่งทำให้เป็นอันตรายได้
4. ควรเลือกน้ำเกลือที่มีความเข้มข้นของเกลือเท่ากับความเข้มข้นของเกลือในเลือด เพราะหากร่างกายได้รับเกลือแร่ที่มีความเข้มข้นเกินไปอาจจะทำให้เสียชีวิตได้
5. หากมีอาการไข้และหนาวสั่น ให้หยุดให้น้ำเกลือ และรีบฉีดยาแก้แพ้ทันทีเพื่อความปลอดภัย
5%DN/3
น้ำเกลือชนิดนี้จะมีน้ำตาลเดกซ์โทรสเข้มข้น 5% ผสมกับน้ำเกลือที่มีความเข้มข้น 0.3 % ซึ่งเป็นน้ำเกลือที่มีความเข้มข้นเพียง 1 ใน 3 ของน้ำเกลือนอร์มัลซาไลน์ ใช้สำหรับผู้ใหญ่ที่มีภาวะขาดน้ำ ช็อก อดอาหาร หรือมีระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ และห้ามใช้ในเด็กเล็ก รวมทั้งผู้ที่มีภาวะหัวใจวาย ไตวาย ความดันโลหิตสูง หรือร่างกายบวม ยกเว้นในบางรายที่มีภาวะขาดเกลือ
ข้อบ่งใช้ ใช้สำหรับเด็กที่มีภาวะขาดน้ำ อดอาหาร หรือมีภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ
ข้อควรระวัง
1. ไม่ควรฉีดเข้าผิวหนัง เพราะจะระคายเคือง
2. บันทึกปริมาณน้ำเข้าและออกจากร่างกายอย่างถูกต้อง
3. สังเกตและเฝ้าระวังการคั่งของน้ำในร่างกาย
4. ติดตามความสมดุลของเกลือแร่ในเลือด ในรายที่ได้รับสารน้ำเป็นเวลานาน
5%DN/5
น้ำเกลือชนิดนี้จะมีน้ำตาลเดกซ์โทรสเข้มข้น 5% ผสมกับน้ำเกลือที่มีความเข้มข้น 0.5 % ซึ่งเป็นน้ำเกลือที่มีความเข้มข้นเพียง 1 ใน 5 ของน้ำเกลือนอร์มัลซาไลน์
ข้อบ่งใช้ ใช้สำหรับเด็กที่มีภาวะขาดน้ำ อดอาหาร หรือมีภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ
ข้อควรระวัง
1. ไม่ควรฉีดเข้าผิวหนัง เพราะจะระคายเคือง
2. บันทึกปริมาณน้ำเข้าและออกจากร่างกายอย่างถูกต้อง
3. สังเกตและเฝ้าระวังการคั่งของน้ำในร่างกาย
4. ติดตามความสมดุลของเกลือแร่ในเลือด ในรายที่ได้รับสารน้ำเป็นเวลานาน
วันเสาร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2562
3% Sodium chloride
3% Sodium chloride
ประเภท Electrolyte supplement sodium salt (Hypertonic Solution)
ข้อบ่งใช้ ใช้รักษาผู้ป่วยที่มีภาวะโซเดียม หรือคลอไรด์ในร่างกายต่ำอย่างรุนแรง
อาการไม่พึงประสงค์
1. ระบบหัวใจทำให้ เกิด Congestive Condition
2. ระบบต่อมไร้ท่อ ได้แก่ การเกิด Extravasation, Hypervolemia, Hypernatremia, Dilution of serum electrolyte, Overhydration, Hypokalemia
3. ระบบทางเดินหายใจ ได้แก่ ปอดบวม
4. ระดับ Lithium ในเลือดลดลง
การพยาบาลและคำแนะนำ
1. ควรระมัดระวังการใช้ในผู้ป่วยโรคหัวใจล้มเหลว ไตบกพร่อง ตับแข็ง ความ ดันโลหิตสูง บวมน้ าจากภาวะโซเดียมเกิน และ
2.ไม่ควรใช้โซเดียมคลอไรด์ชนิด bacteriostatic sodium chloride ในเด็กแรก เกิดเนื่องจากมีสาร benzyl alcohol เป็นสารกันเสียซึ่งสัมพันธ์กับการเกิดพิษ
3. การใช้ยาเกินขนาดและพิษของยา จะมีอาการคลื่นไส้อาเจียน ท้องเสีย ปวดเกร็งช่องท้องเนื่องจาก Ca+ลดลง K+ลดลง Na+ สูงขึ้น แก้ไขโดยการให้ ยาขับปัสสาวะ
4. Serum sodium level 135-145 mEq/L, K, Cl, Bicarb level, I/O,น้ำหนักตัว
ประเภท Electrolyte supplement sodium salt (Hypertonic Solution)
ข้อบ่งใช้ ใช้รักษาผู้ป่วยที่มีภาวะโซเดียม หรือคลอไรด์ในร่างกายต่ำอย่างรุนแรง
อาการไม่พึงประสงค์
1. ระบบหัวใจทำให้ เกิด Congestive Condition
2. ระบบต่อมไร้ท่อ ได้แก่ การเกิด Extravasation, Hypervolemia, Hypernatremia, Dilution of serum electrolyte, Overhydration, Hypokalemia
3. ระบบทางเดินหายใจ ได้แก่ ปอดบวม
4. ระดับ Lithium ในเลือดลดลง
การพยาบาลและคำแนะนำ
1. ควรระมัดระวังการใช้ในผู้ป่วยโรคหัวใจล้มเหลว ไตบกพร่อง ตับแข็ง ความ ดันโลหิตสูง บวมน้ าจากภาวะโซเดียมเกิน และ
2.ไม่ควรใช้โซเดียมคลอไรด์ชนิด bacteriostatic sodium chloride ในเด็กแรก เกิดเนื่องจากมีสาร benzyl alcohol เป็นสารกันเสียซึ่งสัมพันธ์กับการเกิดพิษ
3. การใช้ยาเกินขนาดและพิษของยา จะมีอาการคลื่นไส้อาเจียน ท้องเสีย ปวดเกร็งช่องท้องเนื่องจาก Ca+ลดลง K+ลดลง Na+ สูงขึ้น แก้ไขโดยการให้ ยาขับปัสสาวะ
4. Serum sodium level 135-145 mEq/L, K, Cl, Bicarb level, I/O,น้ำหนักตัว
Sodium bicarbonate
Sodium bicarbonate
ประเภท ยาขับลมและช่วยให้เกิดภาวะสมดุลของอิเล็กโตรไลท์ในร่างกาย
ข้อบ่งใช้ รักษา Hyperacidity ภาวะท้องเสียรุนแรงซึ่งให้สูญเสีย Bicarbonate ภาวะด่างในปัสสาวะเนื่องจากยา Barbiturates, Salicylate, Methanol รักษาภาวะเฉียบพลันของ Metabolic acidosis เนื่องจากภาวะช็อก ภาวะขาดน้ำอย่างรุนแรง Anoxia เบาหวานที่ควบคุมไม่ได้ โรคไต Cardiac arrest ป้องกันนิ่วในไตจากโรคเกาต์
การออกฤทธิ์ ระยะสั้น สามารถลดกรดในกระเพาะอาหารได้อย่างรวดเร็ว โดยช่วยเปลี่ยนให้โซเดียมคลอไรด์ โซเดียมคาร์บอนไดออกไซด์ และน้ำ ส่วนที่เหลือจะถูกขับออกทางปัสสาวะ ยานี้ไม่เหมาะสมสำหรับรักษาแผลในกระเพาะอาหาร เพราะการออกฤทธิ์ระยะสั้นๆ มีปริมาณของโซเดียวสูง และทำให้ท้องอืดได้ (จากการปลดปล่อยแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ออกมา)
ผลข้างเคียง มีอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ เกิดภาวะการเผาผลาญเป็นด่าง (Metabolic alkalosis) ความไม่สมดุลของเกลือแร่ เกลือโซเดียมมากเกินไป ระดับแคลเซียมและโปแตสเซียมต่ำ
การพยาบาล ให้การดูแลและแนะนำผู้ป่วย ดังนี้
1. ไม่ควรรับประทานยานี้พร้อมกับนมหรือแคลเซียม เปนเวลานานๆ เพราะจะเกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ สับสน ระดับแคลเซียมและฟอสฟอรัสในเลือดต่ำ เกิดนิ่วในไต เลือดไปเลี้ยงไตไม่พอ เกิดภาวะการเผาพลาญเป็นด่าง
2. ไม่ควรใช้เป็นยาลดกรดในระยะยาว เพราะอาจเกิดการสะสมคั่งค้างของโซเดียมและภาวะด่าง
ประเภท ยาขับลมและช่วยให้เกิดภาวะสมดุลของอิเล็กโตรไลท์ในร่างกาย
ข้อบ่งใช้ รักษา Hyperacidity ภาวะท้องเสียรุนแรงซึ่งให้สูญเสีย Bicarbonate ภาวะด่างในปัสสาวะเนื่องจากยา Barbiturates, Salicylate, Methanol รักษาภาวะเฉียบพลันของ Metabolic acidosis เนื่องจากภาวะช็อก ภาวะขาดน้ำอย่างรุนแรง Anoxia เบาหวานที่ควบคุมไม่ได้ โรคไต Cardiac arrest ป้องกันนิ่วในไตจากโรคเกาต์
การออกฤทธิ์ ระยะสั้น สามารถลดกรดในกระเพาะอาหารได้อย่างรวดเร็ว โดยช่วยเปลี่ยนให้โซเดียมคลอไรด์ โซเดียมคาร์บอนไดออกไซด์ และน้ำ ส่วนที่เหลือจะถูกขับออกทางปัสสาวะ ยานี้ไม่เหมาะสมสำหรับรักษาแผลในกระเพาะอาหาร เพราะการออกฤทธิ์ระยะสั้นๆ มีปริมาณของโซเดียวสูง และทำให้ท้องอืดได้ (จากการปลดปล่อยแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ออกมา)
ผลข้างเคียง มีอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ เกิดภาวะการเผาผลาญเป็นด่าง (Metabolic alkalosis) ความไม่สมดุลของเกลือแร่ เกลือโซเดียมมากเกินไป ระดับแคลเซียมและโปแตสเซียมต่ำ
การพยาบาล ให้การดูแลและแนะนำผู้ป่วย ดังนี้
1. ไม่ควรรับประทานยานี้พร้อมกับนมหรือแคลเซียม เปนเวลานานๆ เพราะจะเกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ สับสน ระดับแคลเซียมและฟอสฟอรัสในเลือดต่ำ เกิดนิ่วในไต เลือดไปเลี้ยงไตไม่พอ เกิดภาวะการเผาพลาญเป็นด่าง
2. ไม่ควรใช้เป็นยาลดกรดในระยะยาว เพราะอาจเกิดการสะสมคั่งค้างของโซเดียมและภาวะด่าง
Penicillin G
PGS
ประเภท ยาปฏิชีวนะ กลุ่มเพนิซินลินที่ไม่ทนกรด ถูกทำลายง่ายโดยกรดในกระเพาะอาหาร จึงไม่นิยมให้โดยการรับประทาน
ข้อบ่งใช้ รักษาโรคติดเชื้อที่เกิดจากเชื้อ gram positive เช่น B-hemolytic steptococci ที่พบในโรคติดเชื้อที่ผิวหนัง การติดเชื้อ B-hemolytic steptococci group A หนองใน ปวดบวม เป็นต้น
การออกฤทธิ์ ฆ่าเชื้อแบคทีเรียโดยยับยั้งการสร้างผนังเซลล์ของแบคทีเรีย โดยเมื่อยาเข้าสู่เซลล์จะจับกับ Penicillin-binding proteins ในผนังเซลล์และยับยั้งการทำงานของเอมไซม์ Transpeptides ซึ่งทำหน้าที่เชื่อมโยงสาย Peptidoglycans ในกระบวนการสร้างผนังเซลล์ของแบคทีเรียที่กำลังแบ่งตัว ทำให้แบคทีเรียสร้างผนังเซลล์ไม่ได้ใช้ได้ผลดีในการรักษาโรคติดเชื้อที่เกิดจาก gram positive
ผลข้างเคียง มีน้อย เช่น อาจทำให้มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน แต่ที่สำคัญและเกิดบ่อย คือ อาการแพ้ ซึ่งอาจมีเพียงการแพ้อย่างอ่อน คือ ผื่นคันตามผิวหนัง มีไข้ จนถึงอาการรุนแรงและเฉียบพลัน พบบ่อยในกรณีที่ใช้ยาฉีด อาจมีอาการแน่นหน้าอก หายใจลำบาก จากการหดรัดตัวของหลอดลม ความดันโลหิตต่ำ หยุดหายใจ อาจจะมีอาการปวดและอักเสบบริเวณที่ฉีดยา อาจมีหลอดเลือดดำอักเสบ
การพยาบาล
1. ยาเพนิซินลินจี เมื่อผสมกับน้ำกลั่นแล้วจะคงทนได้นาน 1 วัน ในอุณหภูมิห้อง แต่เก็บได้นาน 14 สัปดาห์ ถ้าเก็บไว้ในตู้เย็น ดังนั้นถ้าผสมแล้วใช้ไม่หมดควรเขียนวันเวลาที่ผสมยากำกับไว้แล้วเก็บไว้ในตู้เย็น
2. เพนิซินลิน ที่มีลักษณะเหนียวข้น เช่น Benzathine penicillin เป็นต้น ควรผสมยาใหม่ๆ แล้วฉีดทันทีโดยผสมที่ข้างเตียงผู้ป่วยแล้วฉีดทันที่ เพื่อป้องกันยาอุดตันฉีดยา ซึ่งอาจทำให้ดันยาไม่ได้จึงต้องใช้เข็มเบอร์ใหญ่กว่าเบอร์ 23
3. สังเกตอาการของผู้ป่วยหลังฉีดยาโดยเฉพาะผู้ป่วยที่ได้รับการฉีดยาเป็นครั้งคราว ควรรอดูอาการอย่างน้อย 15 นาที
ประเภท ยาปฏิชีวนะ กลุ่มเพนิซินลินที่ไม่ทนกรด ถูกทำลายง่ายโดยกรดในกระเพาะอาหาร จึงไม่นิยมให้โดยการรับประทาน
ข้อบ่งใช้ รักษาโรคติดเชื้อที่เกิดจากเชื้อ gram positive เช่น B-hemolytic steptococci ที่พบในโรคติดเชื้อที่ผิวหนัง การติดเชื้อ B-hemolytic steptococci group A หนองใน ปวดบวม เป็นต้น
การออกฤทธิ์ ฆ่าเชื้อแบคทีเรียโดยยับยั้งการสร้างผนังเซลล์ของแบคทีเรีย โดยเมื่อยาเข้าสู่เซลล์จะจับกับ Penicillin-binding proteins ในผนังเซลล์และยับยั้งการทำงานของเอมไซม์ Transpeptides ซึ่งทำหน้าที่เชื่อมโยงสาย Peptidoglycans ในกระบวนการสร้างผนังเซลล์ของแบคทีเรียที่กำลังแบ่งตัว ทำให้แบคทีเรียสร้างผนังเซลล์ไม่ได้ใช้ได้ผลดีในการรักษาโรคติดเชื้อที่เกิดจาก gram positive
ผลข้างเคียง มีน้อย เช่น อาจทำให้มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน แต่ที่สำคัญและเกิดบ่อย คือ อาการแพ้ ซึ่งอาจมีเพียงการแพ้อย่างอ่อน คือ ผื่นคันตามผิวหนัง มีไข้ จนถึงอาการรุนแรงและเฉียบพลัน พบบ่อยในกรณีที่ใช้ยาฉีด อาจมีอาการแน่นหน้าอก หายใจลำบาก จากการหดรัดตัวของหลอดลม ความดันโลหิตต่ำ หยุดหายใจ อาจจะมีอาการปวดและอักเสบบริเวณที่ฉีดยา อาจมีหลอดเลือดดำอักเสบ
การพยาบาล
1. ยาเพนิซินลินจี เมื่อผสมกับน้ำกลั่นแล้วจะคงทนได้นาน 1 วัน ในอุณหภูมิห้อง แต่เก็บได้นาน 14 สัปดาห์ ถ้าเก็บไว้ในตู้เย็น ดังนั้นถ้าผสมแล้วใช้ไม่หมดควรเขียนวันเวลาที่ผสมยากำกับไว้แล้วเก็บไว้ในตู้เย็น
2. เพนิซินลิน ที่มีลักษณะเหนียวข้น เช่น Benzathine penicillin เป็นต้น ควรผสมยาใหม่ๆ แล้วฉีดทันทีโดยผสมที่ข้างเตียงผู้ป่วยแล้วฉีดทันที่ เพื่อป้องกันยาอุดตันฉีดยา ซึ่งอาจทำให้ดันยาไม่ได้จึงต้องใช้เข็มเบอร์ใหญ่กว่าเบอร์ 23
3. สังเกตอาการของผู้ป่วยหลังฉีดยาโดยเฉพาะผู้ป่วยที่ได้รับการฉีดยาเป็นครั้งคราว ควรรอดูอาการอย่างน้อย 15 นาที
Amoxicillin
Amoxicillin
ประเภท ยาปฏิชีวนะ กลุ่มเพนิซิลลิน
ข้อบ่งใช้ ขจัดเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของการติดเชื้อ เช่น ปวดบวม หลอดลมอักเสบ ติดเชื้อในหู ทางเดินปัสสาวะ และผิวหนัง ใช้ร่วมกับ Omeprazole หรือ Lansoprazole และ Clarithromycin เพื่อรักษา Duodenal ulcers โดย Helicobacter pylori
การออกฤทธิ์ ยับยั้งการสร้างผนังเซลล์ของแบคทีเรีย อยูในกลุ่ม Broad spectrum pencillin เป็นเพนิซิลลินที่สังเคราะห์ขึ้น ให้มีขอบเขตการฆ่าเชื้อโรคกว้างขึ้นกว่าเพนิซินลินชนิดอื่นนอกจากจะลำลายแบคทีเรีที่ไวต่อpencillin G และยังทำลายแบคทีเรียแกรมลบได้ดีอีกด้วย ยาออกฤทธิ์คล้าย Ampicillin แต่ระดับยาในเลือดสูงกว่า Ampicillin 2.5 เท่า ในขนาดเท่ากัน
ผลข้างเคียง คล้ายAmpicillin แต่โอกาสเกิดน้อกกว่า ที่พบบ่อย คือ มีผื่นแดงขึ้นตามตัวแต่ไม่คัน ซึ่งไม่ใช้อาการแพ้ยา ปวดศีรษะ เจ็บในปาก มีอาการคัน และมีตกขาวในช่องคลอด
การพยาบาล
1. ยานี้ไม่ถูกรบกวนโดย Penicillinase และกรดในกระเพาะอาหาร จึงให้รับประทานได้ทั้งก่อนและหลังอาหาร
2. ก่อนเริ่มให้ยา dose แรก ควรถามประวัติการแพ้ยาก่อน หากมีประวัติแพยาให้เขียนไว้ใน OPD card รายงาน หรือ Kardex ของผู้ป่วยให้ชัดเจน เพื่อระวังในการให้ยา หรือสารต่างๆ เป็นพิเศษ
3. ก่อนเริ่มยา Dose แรก ควรปรึกษาแพทย์ผู้รักษา เพื่อเก็บ Specimens ต่างๆ เช่น เลือด ปัสสาวะ เสมหะ เป็นต้น ส่งตรวจหาเชื้อก่อน
ประเภท ยาปฏิชีวนะ กลุ่มเพนิซิลลิน
ข้อบ่งใช้ ขจัดเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของการติดเชื้อ เช่น ปวดบวม หลอดลมอักเสบ ติดเชื้อในหู ทางเดินปัสสาวะ และผิวหนัง ใช้ร่วมกับ Omeprazole หรือ Lansoprazole และ Clarithromycin เพื่อรักษา Duodenal ulcers โดย Helicobacter pylori
การออกฤทธิ์ ยับยั้งการสร้างผนังเซลล์ของแบคทีเรีย อยูในกลุ่ม Broad spectrum pencillin เป็นเพนิซิลลินที่สังเคราะห์ขึ้น ให้มีขอบเขตการฆ่าเชื้อโรคกว้างขึ้นกว่าเพนิซินลินชนิดอื่นนอกจากจะลำลายแบคทีเรีที่ไวต่อpencillin G และยังทำลายแบคทีเรียแกรมลบได้ดีอีกด้วย ยาออกฤทธิ์คล้าย Ampicillin แต่ระดับยาในเลือดสูงกว่า Ampicillin 2.5 เท่า ในขนาดเท่ากัน
ผลข้างเคียง คล้ายAmpicillin แต่โอกาสเกิดน้อกกว่า ที่พบบ่อย คือ มีผื่นแดงขึ้นตามตัวแต่ไม่คัน ซึ่งไม่ใช้อาการแพ้ยา ปวดศีรษะ เจ็บในปาก มีอาการคัน และมีตกขาวในช่องคลอด
การพยาบาล
1. ยานี้ไม่ถูกรบกวนโดย Penicillinase และกรดในกระเพาะอาหาร จึงให้รับประทานได้ทั้งก่อนและหลังอาหาร
2. ก่อนเริ่มให้ยา dose แรก ควรถามประวัติการแพ้ยาก่อน หากมีประวัติแพยาให้เขียนไว้ใน OPD card รายงาน หรือ Kardex ของผู้ป่วยให้ชัดเจน เพื่อระวังในการให้ยา หรือสารต่างๆ เป็นพิเศษ
3. ก่อนเริ่มยา Dose แรก ควรปรึกษาแพทย์ผู้รักษา เพื่อเก็บ Specimens ต่างๆ เช่น เลือด ปัสสาวะ เสมหะ เป็นต้น ส่งตรวจหาเชื้อก่อน
Vitamin K
Vitamin K
แหล่งที่มา วิตามินเค ที่ได้จากธรรมชาติ มีอยู่ 2 ชนิด คือ
1. Phytomenadione หรือ Phylloquinone คือ วิตามินเค1 พบในพืชพักใบเขียว
2. Menaquinone คือ วิตามินเค1 พบในตับ เนื้อสัตว์ นม และสังเคราะห์ได้จากแบคทีเรียในลำไส้
วิตามินเค ที่ได้จากการสังเคราะห์ คือ Menadione หรือ วิตามินเค1 และ Menadiol หรือ วิตามินเค4 ซึ่งเป็นอนุพันธ์ของMenadione โรคขาดวิตามินเค พบน้อยมาก เนื่องจากมีในอาหารทั่วๆไป และสังเคราะห์ได้จากแบคทีเรียในลำไส้และร่างกายมีตวามจ้องการต่ำมาก
ประโยชน์ ช่วยเสริมการทำงานของตับในการสร้างสารที่จำเป็นต่อการแข็งตัวของเลือดหลายชนิด ได้แก่ Prothrombin (Factor II), Proconvertin (Factor VII), Plasma thromboplastin component (Factor IX), และ Stuart factor (Factor X)
ข้อบ่งใช้
1. ป้องกันและรักษาโรคเลือดออกในเด็กแรกเกิด
2. รักษาภาวะการแข็งตัวของเลือดผิดปกติที่เกี่ยวข้องกับ Factor II, VII, IX, และ X
3. เด็กทารกที่ได้รับสูตรอาหารที่ไม่มีส่วนผสมของนมวัว
4. เมื่อต้องการวิตามินเค เพิ่มขึ้น เช่น การให้ยาต้านจุลชีพเป็นเวลานาน ภาวะขาดน้ำดีคั่ง โรคอุจจาระร่วงเรื้อรัง ภาวะการดูดซึมไขมันบกพร่อง เป็นต้น
อาการการขาด เลือดแข็งตัวช้า Hemorrhagic disease of the newborn เลือดออกง่ายใต้ผิวหนัง โรคกระเพาะ โรคดีซ่าน
อาการพิษ อาเจียน ร้อนวูบวาบ ปวดหน้าอก หากฉีดวิตามินเค เข้าหลอดเลือดดำ ทารกอาจเกิดเม็ดเลือดแดงแตก Billirubin ในเลือดสูง ตัวเหลือง
การพยาบาล แนะนำให้ผู้ที่เป็นโรคขาดวิตามินเค รับประทานอาหารที่มีวิตามินเคสูง หากเป็นชนิดฉีด ควรฉีดเข้ากล้ามเนื้อมากกว่าฉีดเข้าหลอดเลือดดำ
แหล่งที่มา วิตามินเค ที่ได้จากธรรมชาติ มีอยู่ 2 ชนิด คือ
1. Phytomenadione หรือ Phylloquinone คือ วิตามินเค1 พบในพืชพักใบเขียว
2. Menaquinone คือ วิตามินเค1 พบในตับ เนื้อสัตว์ นม และสังเคราะห์ได้จากแบคทีเรียในลำไส้
วิตามินเค ที่ได้จากการสังเคราะห์ คือ Menadione หรือ วิตามินเค1 และ Menadiol หรือ วิตามินเค4 ซึ่งเป็นอนุพันธ์ของMenadione โรคขาดวิตามินเค พบน้อยมาก เนื่องจากมีในอาหารทั่วๆไป และสังเคราะห์ได้จากแบคทีเรียในลำไส้และร่างกายมีตวามจ้องการต่ำมาก
ประโยชน์ ช่วยเสริมการทำงานของตับในการสร้างสารที่จำเป็นต่อการแข็งตัวของเลือดหลายชนิด ได้แก่ Prothrombin (Factor II), Proconvertin (Factor VII), Plasma thromboplastin component (Factor IX), และ Stuart factor (Factor X)
ข้อบ่งใช้
1. ป้องกันและรักษาโรคเลือดออกในเด็กแรกเกิด
2. รักษาภาวะการแข็งตัวของเลือดผิดปกติที่เกี่ยวข้องกับ Factor II, VII, IX, และ X
3. เด็กทารกที่ได้รับสูตรอาหารที่ไม่มีส่วนผสมของนมวัว
4. เมื่อต้องการวิตามินเค เพิ่มขึ้น เช่น การให้ยาต้านจุลชีพเป็นเวลานาน ภาวะขาดน้ำดีคั่ง โรคอุจจาระร่วงเรื้อรัง ภาวะการดูดซึมไขมันบกพร่อง เป็นต้น
อาการการขาด เลือดแข็งตัวช้า Hemorrhagic disease of the newborn เลือดออกง่ายใต้ผิวหนัง โรคกระเพาะ โรคดีซ่าน
อาการพิษ อาเจียน ร้อนวูบวาบ ปวดหน้าอก หากฉีดวิตามินเค เข้าหลอดเลือดดำ ทารกอาจเกิดเม็ดเลือดแดงแตก Billirubin ในเลือดสูง ตัวเหลือง
การพยาบาล แนะนำให้ผู้ที่เป็นโรคขาดวิตามินเค รับประทานอาหารที่มีวิตามินเคสูง หากเป็นชนิดฉีด ควรฉีดเข้ากล้ามเนื้อมากกว่าฉีดเข้าหลอดเลือดดำ
Piperacillin
Tazocin
ประเภท ยาปฏิชีวนะ กลุ่มเพนิซิลลิน ซึ่งเป็น Semisynthetic pennicillin ซึ่งดัดแปลงมาจากแอมพิซิลิน
ข้อบ่งใช้ รักษาการติดเชื้อในช่องท้อง รวมทั้งตับและทางเดินน้ำดี การติดเชื้อจากการผ่าตัด การติดเชื้อที่ไต การติดเชื้อในกระแสเลือด ทางเดินหายใจ ผิวหนัง กระดูก ข้อ ให้เพื่อป้องกันการติดเชื้อก่อนผ่าตัด
การออกฤทธิ์ กว้างกว่าแอมพิซินลิน ออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อแกรมลบและ Anaerobic แบคทีเรียกว้างขึ้น มีข้อเด่น คือ มีฤทธิ์ครอบคลุมเชื้อ Ps. Aeruginosa, K. pneumonia & Proteus โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีฤทธิ์ต่อเชื้อ Ps. Aeruginosa เหนือกว่าเพนิซินลินชนิดอื่น แต่ใช้ไม่ได้ผลกับเชื้อที่สร้างเอนไซม์ Betalactamase ยานี้มีฤทธิ์ต่อ Anaerobic แบคทีเรียค่อนข้างดี ครอบคลุมเชื้อทุกชนิด รวมทั้ง Bacteroids fragillis เหมาะสำหรับการรักษาการติดเชื้อในช่องท้อง
ผลข้างเคียง ที่พบไม่รุนแรง จะหายไปเมื่อหยุดยา อาการที่พบบ่อยคือ ได้แก่ Thrombophlebitis ปวดบวมแดงและแข็งตรงบริเวณที่ฉีด อาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียนและถ่ายเหลว พบไม่บ่อย ได้แก่ Hypokalemia และBleedind
การพยาบาล
1. แนะนำผู้ป่วยแจ้งให้แพทย์หรือพยาบาลทราบ หากเคยแพ้ยากลุ่มเพนิซินลิน และ Cephalosporin มาก่อน
2. หากเกิดอาการแพ้ยา หรือมีอาการท้องเสียอย่างรุนแรง หรือมีฝ้าที่ลิ้นหรือในช่องปากควรแจ้งให้แพทย์หรือพยาบาลทราบ
ประเภท ยาปฏิชีวนะ กลุ่มเพนิซิลลิน ซึ่งเป็น Semisynthetic pennicillin ซึ่งดัดแปลงมาจากแอมพิซิลิน
ข้อบ่งใช้ รักษาการติดเชื้อในช่องท้อง รวมทั้งตับและทางเดินน้ำดี การติดเชื้อจากการผ่าตัด การติดเชื้อที่ไต การติดเชื้อในกระแสเลือด ทางเดินหายใจ ผิวหนัง กระดูก ข้อ ให้เพื่อป้องกันการติดเชื้อก่อนผ่าตัด
การออกฤทธิ์ กว้างกว่าแอมพิซินลิน ออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อแกรมลบและ Anaerobic แบคทีเรียกว้างขึ้น มีข้อเด่น คือ มีฤทธิ์ครอบคลุมเชื้อ Ps. Aeruginosa, K. pneumonia & Proteus โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีฤทธิ์ต่อเชื้อ Ps. Aeruginosa เหนือกว่าเพนิซินลินชนิดอื่น แต่ใช้ไม่ได้ผลกับเชื้อที่สร้างเอนไซม์ Betalactamase ยานี้มีฤทธิ์ต่อ Anaerobic แบคทีเรียค่อนข้างดี ครอบคลุมเชื้อทุกชนิด รวมทั้ง Bacteroids fragillis เหมาะสำหรับการรักษาการติดเชื้อในช่องท้อง
ผลข้างเคียง ที่พบไม่รุนแรง จะหายไปเมื่อหยุดยา อาการที่พบบ่อยคือ ได้แก่ Thrombophlebitis ปวดบวมแดงและแข็งตรงบริเวณที่ฉีด อาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียนและถ่ายเหลว พบไม่บ่อย ได้แก่ Hypokalemia และBleedind
การพยาบาล
1. แนะนำผู้ป่วยแจ้งให้แพทย์หรือพยาบาลทราบ หากเคยแพ้ยากลุ่มเพนิซินลิน และ Cephalosporin มาก่อน
2. หากเกิดอาการแพ้ยา หรือมีอาการท้องเสียอย่างรุนแรง หรือมีฝ้าที่ลิ้นหรือในช่องปากควรแจ้งให้แพทย์หรือพยาบาลทราบ
วันศุกร์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2562
Ceftazidime
Ceftazidime
ประเภท ยาต้านจุลชีพกลุ่ม Cephalo sporins (Third generation)
ข้อบ่งใช้ รักษาการติดเชื่อจากแบคทีเรีย ได้แก่ การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ ทางเดินหายใจส่วนต้น (Pneumonia, Bacteremia, Septicemia) ติดเชื้อของกระดูก Soft tissue และ ผัวหนัง ติดเชื้อช่องท้องทางสูติ-นรีเวช และเยื่อหุ้มสมอง
การออกฤทธิ์ ยับยั้งการสร้างผนังเซลล์ของแบคทีเรีย จะฆ่าเชื้อพวกแกรมลบแกรมบวก Anaerobes และ Pseudomonas aeruginosa ได้ดี
ผลข้างเคียง แพ้ยา อาจถึงขึ้น Anaphylactic shock ค่าเอนไซม์ในตับสูงขึ้น เกิดการติดเชื้อแทรกซ้อน ปวดบริเวณที่ฉีด คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเดิน ไข้ ผื่นคัน มีพิษต่อไต
การพยาบาล
1. สังเกตและประเมินการแพ้ยา โดยเฉพาะในรายที่มีประวัติแพ้เพนิซิลลิน หรือ Delayed-type เพราะมี Cross-allergenicity ระหว่าง Cephalosporins และเพนิซิลลิน รวมทั้ง Cephalosporins ถ้ามีอาการแพ้ยาเกิดขึ้นควรหยุดยาทันที
2. แนะนำให้ผู้ป่วยไม่ให้ใช้ยานี้นาน เพราะจะเกิด Secondary infection ได้
3. ระวังในผู้ป่วยโรคไต ผู้สูงอายุ หรือสังเกตว่ามีความผิดปกติของไต ก่อนให้ยาควรทดสอบการทำงานของไต
4. ระวังในผู้ป่วยที่มีประวัติโรคทางเดินอาการ โดยเฉพาะลำไส้อักเสบ
5. ระวังในผู้ป่วยที่มีการทำงานของตับผิดปกติ โดยเฉพาะ Cefoperazone
6. การฉีดยานี้เข้าทางหลอดเลือดดำ ให้ละลายยาในสารละลายที่กำหนดไว้และฉีดในช่วงเวลาที่เหมาะสม การฉีดยาในขนาดสูงและ/หรือเป็นเวลานานทำให้เกิด Thrombophlebitis ได้ ควรใช้เข็ม ขนาดเล็ก และฉีดเข้าหลอดเลือดดำขนาดใหญ่ และไม่ควรฉีดซ้ำที่เดียวกัน ควรเปลี่ยนไปเรื่อยๆ
7. ในรายที่ต้องใช้ยาปริมาณสูงๆ ต้องติดตามดูความสมดุลของอิเล็กโตรไลท์ในร่างกาย เพราะยาอยู่ในรูปของโซเดียว มีปริมาณโซเดียมค่อนข้างสูง
ประเภท ยาต้านจุลชีพกลุ่ม Cephalo sporins (Third generation)
ข้อบ่งใช้ รักษาการติดเชื่อจากแบคทีเรีย ได้แก่ การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ ทางเดินหายใจส่วนต้น (Pneumonia, Bacteremia, Septicemia) ติดเชื้อของกระดูก Soft tissue และ ผัวหนัง ติดเชื้อช่องท้องทางสูติ-นรีเวช และเยื่อหุ้มสมอง
การออกฤทธิ์ ยับยั้งการสร้างผนังเซลล์ของแบคทีเรีย จะฆ่าเชื้อพวกแกรมลบแกรมบวก Anaerobes และ Pseudomonas aeruginosa ได้ดี
ผลข้างเคียง แพ้ยา อาจถึงขึ้น Anaphylactic shock ค่าเอนไซม์ในตับสูงขึ้น เกิดการติดเชื้อแทรกซ้อน ปวดบริเวณที่ฉีด คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเดิน ไข้ ผื่นคัน มีพิษต่อไต
การพยาบาล
1. สังเกตและประเมินการแพ้ยา โดยเฉพาะในรายที่มีประวัติแพ้เพนิซิลลิน หรือ Delayed-type เพราะมี Cross-allergenicity ระหว่าง Cephalosporins และเพนิซิลลิน รวมทั้ง Cephalosporins ถ้ามีอาการแพ้ยาเกิดขึ้นควรหยุดยาทันที
2. แนะนำให้ผู้ป่วยไม่ให้ใช้ยานี้นาน เพราะจะเกิด Secondary infection ได้
3. ระวังในผู้ป่วยโรคไต ผู้สูงอายุ หรือสังเกตว่ามีความผิดปกติของไต ก่อนให้ยาควรทดสอบการทำงานของไต
4. ระวังในผู้ป่วยที่มีประวัติโรคทางเดินอาการ โดยเฉพาะลำไส้อักเสบ
5. ระวังในผู้ป่วยที่มีการทำงานของตับผิดปกติ โดยเฉพาะ Cefoperazone
6. การฉีดยานี้เข้าทางหลอดเลือดดำ ให้ละลายยาในสารละลายที่กำหนดไว้และฉีดในช่วงเวลาที่เหมาะสม การฉีดยาในขนาดสูงและ/หรือเป็นเวลานานทำให้เกิด Thrombophlebitis ได้ ควรใช้เข็ม ขนาดเล็ก และฉีดเข้าหลอดเลือดดำขนาดใหญ่ และไม่ควรฉีดซ้ำที่เดียวกัน ควรเปลี่ยนไปเรื่อยๆ
7. ในรายที่ต้องใช้ยาปริมาณสูงๆ ต้องติดตามดูความสมดุลของอิเล็กโตรไลท์ในร่างกาย เพราะยาอยู่ในรูปของโซเดียว มีปริมาณโซเดียมค่อนข้างสูง
Potassium chloride
Potassium chloride
ประเภท สารน้ำเพื่อทดแทนโปแตสเซียม
ข้อบ่งใช้ รักษาผู้ป่วยโรคไต Hyperadrenalism ที่มีอาการอาเจียนเป็นเวลานาน ท้องเสีย ขาดอาหาร การดูดซึมอาหารไม่ดี ภาวะ Alkalosis, Acidosis มีการ Drain เอาน้ำออกจากทางเดินอาหารเป็นเวลานาน ทำ Dialysis ให้อาหารทางหลอดเลือดดำโดยไม่ได้เพิ่มโปแตสเซียมเป็นเวลานาน หรือให้ยาขับปัสสาวะชนิด Thiazides, Loop diuretics, Carbonic anhydrase inhibitors, Natural corticosterroid และ Amphotericin B
การออกฤทธิ์ เพิ่มความเข้มข้นในเซลล์ โปแตสเซียมมีผลต่อเซลล์ในเส้นประสาท หัวใจ และกล้ามเนื้อ
ผลข้างเคียง ชา สับสน การทำงานของหัวใจลดลง ทำให้ EKG ผิดปกติ มีโปแตสเซียมในเลือดสูง คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ปวดท้อง ลำไส้เล็กฉีกขาด
การพยาบาล
1. ติดตามผลอิเล็กโตรไลท์ โดยเฉพาะโปแตสเซียม การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ Serum creatinine จำนวนปัสสาวะ
2. การให้โปแตสเซียมทางหลอดเลือดดดำ ต้องเจือจางในสารน้ำก่อนให้ทุกครั้ง ประมาณ 40 mEq/L ไม่ให้มากกว่า 80 mEq/L หรือให้ 1 mEq/kg/min ในผู้ใหญ่ และ 0.2 mEq/kg/min ในเด็ก
3. ตวงปัสสาวะ และผลตรวจทางห้องปฏิบัติการขณะที่ให้ยา
4. แนะนำให้รับประทานอาหารที่มีโปแตสเซียมสูง เช่น ผลไม้และน้ำผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว กล้วย องุ่น แอปเปิล ผัก เนื้อสัตว์ (เช่น ปลา สัตว์ปีก) ชา กาแฟ ถั่ว เป็นต้น
5. ยาน้ำให้ผสมกับน้ำผลไม้เพื่อป้องกันการระคายเคืองกับทางเดินอาหาร
ประเภท สารน้ำเพื่อทดแทนโปแตสเซียม
ข้อบ่งใช้ รักษาผู้ป่วยโรคไต Hyperadrenalism ที่มีอาการอาเจียนเป็นเวลานาน ท้องเสีย ขาดอาหาร การดูดซึมอาหารไม่ดี ภาวะ Alkalosis, Acidosis มีการ Drain เอาน้ำออกจากทางเดินอาหารเป็นเวลานาน ทำ Dialysis ให้อาหารทางหลอดเลือดดำโดยไม่ได้เพิ่มโปแตสเซียมเป็นเวลานาน หรือให้ยาขับปัสสาวะชนิด Thiazides, Loop diuretics, Carbonic anhydrase inhibitors, Natural corticosterroid และ Amphotericin B
การออกฤทธิ์ เพิ่มความเข้มข้นในเซลล์ โปแตสเซียมมีผลต่อเซลล์ในเส้นประสาท หัวใจ และกล้ามเนื้อ
ผลข้างเคียง ชา สับสน การทำงานของหัวใจลดลง ทำให้ EKG ผิดปกติ มีโปแตสเซียมในเลือดสูง คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ปวดท้อง ลำไส้เล็กฉีกขาด
การพยาบาล
1. ติดตามผลอิเล็กโตรไลท์ โดยเฉพาะโปแตสเซียม การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ Serum creatinine จำนวนปัสสาวะ
2. การให้โปแตสเซียมทางหลอดเลือดดดำ ต้องเจือจางในสารน้ำก่อนให้ทุกครั้ง ประมาณ 40 mEq/L ไม่ให้มากกว่า 80 mEq/L หรือให้ 1 mEq/kg/min ในผู้ใหญ่ และ 0.2 mEq/kg/min ในเด็ก
3. ตวงปัสสาวะ และผลตรวจทางห้องปฏิบัติการขณะที่ให้ยา
4. แนะนำให้รับประทานอาหารที่มีโปแตสเซียมสูง เช่น ผลไม้และน้ำผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว กล้วย องุ่น แอปเปิล ผัก เนื้อสัตว์ (เช่น ปลา สัตว์ปีก) ชา กาแฟ ถั่ว เป็นต้น
5. ยาน้ำให้ผสมกับน้ำผลไม้เพื่อป้องกันการระคายเคืองกับทางเดินอาหาร
Fentanyl
Fentanyl
ประเภท ยากลุ่ม Opiate
ข้อบ่งใช้ ชนิดฉีดใช้รักษาอาการปวดจาดการผ่าตัด โดยใช้ร่วมกับยาสลบชนิดอื่น ชนิดปิดบนผิวหนัง ใช้บำบัดความปวดที่รุนแรงและเกิดอย่างต่อเนื่องจากโรคมะเร็ง ระงับอาการปวดรุนแรง โดยทำให้เกิดอาการมึน ง่วงหลับ
การออกฤทธิ์ จับกับ Opiate receptors ในหลายๆ ตำแหน่งใน CNS เช่น สมอง ก้านสมอง ไขสันหลัง เป็นต้น ยาจะออกฤทธิ์ทำให้ผู้ป่วยเกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งด้านอารมณ์ และความรู้สึกต่อความเจ็บปวด ตือ บรรเทาอาการปวดและอารมณ์ดี
ผลข้างเคียง กดการหายใจและระบบไหลเวียน ซึ่งเป็อันตรายมากที่สุดของยา Opiate พบบ่อย คือ อาการท้องผูก หากใช้ต่อเนื่องมีผลเสียต่อกระเพาะอาหาร ตับ และไต
การพยาบาล
1. เตรียมพร้อมเครื่องมือช่วยชีวิต และยาแก้แพ้ เช่น Naloxone เป็นต้น ให้พร้อมใช้เสมอ
2. หากผู้ป่วยไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ หมั่นเคลื่อนไหวผู้ป่วย พลิกตัวไปมา ให้ผู้ป่วยไอ และหายใจลึกๆ เพื่อป้องกันปอดแฟบ
ประเภท ยากลุ่ม Opiate
ข้อบ่งใช้ ชนิดฉีดใช้รักษาอาการปวดจาดการผ่าตัด โดยใช้ร่วมกับยาสลบชนิดอื่น ชนิดปิดบนผิวหนัง ใช้บำบัดความปวดที่รุนแรงและเกิดอย่างต่อเนื่องจากโรคมะเร็ง ระงับอาการปวดรุนแรง โดยทำให้เกิดอาการมึน ง่วงหลับ
การออกฤทธิ์ จับกับ Opiate receptors ในหลายๆ ตำแหน่งใน CNS เช่น สมอง ก้านสมอง ไขสันหลัง เป็นต้น ยาจะออกฤทธิ์ทำให้ผู้ป่วยเกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งด้านอารมณ์ และความรู้สึกต่อความเจ็บปวด ตือ บรรเทาอาการปวดและอารมณ์ดี
ผลข้างเคียง กดการหายใจและระบบไหลเวียน ซึ่งเป็อันตรายมากที่สุดของยา Opiate พบบ่อย คือ อาการท้องผูก หากใช้ต่อเนื่องมีผลเสียต่อกระเพาะอาหาร ตับ และไต
การพยาบาล
1. เตรียมพร้อมเครื่องมือช่วยชีวิต และยาแก้แพ้ เช่น Naloxone เป็นต้น ให้พร้อมใช้เสมอ
2. หากผู้ป่วยไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ หมั่นเคลื่อนไหวผู้ป่วย พลิกตัวไปมา ให้ผู้ป่วยไอ และหายใจลึกๆ เพื่อป้องกันปอดแฟบ
Pancuronium bromibe
Pavulon
ประเภท ยาคลายกล้ามเนื้อ
ข้อบ่งใช้ เป็นยาชาเพื่อช่วยในการใส่ ET-Tube และใช้ในผู้ป่วยที่ใช้เครื่องช่วยหายใจ
การออกฤทธิ์ กั้นรอยต่อระหว่างปลายประสาทและกล้ามเนื้อชนิดแย่งที่ ทำให้กล้ามคลายตัวหรือเป็นอัมพาต โดยแบ่งที่กับ Acetylcholine ไปจับกับตัวรับ Cholinergic ของกล้ามเนื้อลายทำให้ขัดขวางการส่งผ่านกระแสประสาท และมีคุณสมบัติในการหลั่งสารต้านฮีสตามีนและขัดขวางปมประสาท
ผลข้างเคียง หัวใจเต้นเร็ว ความดันโลหิตสูง ผื่น ปวดแสบปวดร้อนตามแนวหลอดเลือดที่ถูกฉีดยา กล้ามเนื้ออ่อนแรง กดการหายใจ
การพยาบาล
1. ต้องดูแลใกล้ชิด สังเกตอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงและการกดการหายใจ
2. กล้ามเนื้อจะเป็นอัมพาตหลังฉีดยาและกลับเป็นปกติใน 90 นาที
3. วัดสัญญาณชีพและสังเกตการหายใจจนกระทั่งหมดฤทธิ์ยา
ประเภท ยาคลายกล้ามเนื้อ
ข้อบ่งใช้ เป็นยาชาเพื่อช่วยในการใส่ ET-Tube และใช้ในผู้ป่วยที่ใช้เครื่องช่วยหายใจ
การออกฤทธิ์ กั้นรอยต่อระหว่างปลายประสาทและกล้ามเนื้อชนิดแย่งที่ ทำให้กล้ามคลายตัวหรือเป็นอัมพาต โดยแบ่งที่กับ Acetylcholine ไปจับกับตัวรับ Cholinergic ของกล้ามเนื้อลายทำให้ขัดขวางการส่งผ่านกระแสประสาท และมีคุณสมบัติในการหลั่งสารต้านฮีสตามีนและขัดขวางปมประสาท
ผลข้างเคียง หัวใจเต้นเร็ว ความดันโลหิตสูง ผื่น ปวดแสบปวดร้อนตามแนวหลอดเลือดที่ถูกฉีดยา กล้ามเนื้ออ่อนแรง กดการหายใจ
การพยาบาล
1. ต้องดูแลใกล้ชิด สังเกตอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงและการกดการหายใจ
2. กล้ามเนื้อจะเป็นอัมพาตหลังฉีดยาและกลับเป็นปกติใน 90 นาที
3. วัดสัญญาณชีพและสังเกตการหายใจจนกระทั่งหมดฤทธิ์ยา
Chioral hydrate
Chioral hydrate
ประเภท ยานอนหลับ (Sedatives and hypnotics drugs)
ข้อบ่งใช้ รักษาอาการนอนไม่หลับ ให้นอนหลับในเวลากลางวัน และหลับก่อนการทำ EEG ก่อน-หลังผ่าตัดเพื่อลดอาการปวด ป้องกันหรือลดอาการ Alcohol withdrawal
การออกฤทธิ์ กดสมองส่วนหน้าอย่างอ่อนๆ เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะถูกปลี่ยนเป็นสารที่มีฤทธิ์ในการเป็นยานอนหลับ การออกฤทธิ์เฉพาะที่อาจทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังและเยื่อเมือก ยานี้มีฤทธิ์ระงับปวดได้เล็กน้อย อาจทำให้เกิดการตื่นเต้น เพ้อฝัน สามารถป้องกันการชักจาก Strychnine, Bentylenetetrazol ใช้ได้ผลดีในผู้ป่วยที่มีชักจาก Tetanus
ผลข้างเคียง ระคายเคืองต่อผิวหนังและเยื่อเมือก เกิดจากการติดยาได้หากใช้ยาเป็นจำนวนมากและใช้นานอาการคล้ายพวกติดสุราเรื้อรัง ทำลายตับ ไต ทำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหาร
การพยาบาล
1. ให้รับประทานยาพร้อมนมหรือนมหรือน้ำผลไม้ เพื่อป้องกันการระคายเคืองต่อทางเดินอาหาร
2. ติดตามผลข้างเคียง
ประเภท ยานอนหลับ (Sedatives and hypnotics drugs)
ข้อบ่งใช้ รักษาอาการนอนไม่หลับ ให้นอนหลับในเวลากลางวัน และหลับก่อนการทำ EEG ก่อน-หลังผ่าตัดเพื่อลดอาการปวด ป้องกันหรือลดอาการ Alcohol withdrawal
การออกฤทธิ์ กดสมองส่วนหน้าอย่างอ่อนๆ เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะถูกปลี่ยนเป็นสารที่มีฤทธิ์ในการเป็นยานอนหลับ การออกฤทธิ์เฉพาะที่อาจทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังและเยื่อเมือก ยานี้มีฤทธิ์ระงับปวดได้เล็กน้อย อาจทำให้เกิดการตื่นเต้น เพ้อฝัน สามารถป้องกันการชักจาก Strychnine, Bentylenetetrazol ใช้ได้ผลดีในผู้ป่วยที่มีชักจาก Tetanus
ผลข้างเคียง ระคายเคืองต่อผิวหนังและเยื่อเมือก เกิดจากการติดยาได้หากใช้ยาเป็นจำนวนมากและใช้นานอาการคล้ายพวกติดสุราเรื้อรัง ทำลายตับ ไต ทำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหาร
การพยาบาล
1. ให้รับประทานยาพร้อมนมหรือนมหรือน้ำผลไม้ เพื่อป้องกันการระคายเคืองต่อทางเดินอาหาร
2. ติดตามผลข้างเคียง
Diazepam
Diazepam
ข้อบ่งใช้ ลดความความวิตกกังวลทั่วไป รวมทั้งอาการวิตกกังวลก่อนผ่าตัด ใช้รักษาการเกร็งตัวของกลามเนื้อ และควบคุมกล้ามเนื้อสั่นที่เกิดจากการชักและการถอนเหล้า และใช้สงบประสาท
การออกฤทธิ์ กดประสาทส้วนกลาง โดยเสริมฤทธิ์ Gamma aminobuty acid (GABA) ทำให้การยับยั้งและอุดกั้นการตื่นตัวของกระแสประสาท ทั้งส่วน Limbic และ Subcotical จึงทำให้สมองส่วนรับความรู้สึกถูกกด การเคลื่อนไหวจึงช้าลง การทำหน้าที่ของสมองเกิดการเปลี่ยนแปลง ทำให้เกิดอาการซึม มึนงง ง่วงหลับ
ผลข้างเคียง ไม่รุนแรง ที่พบบ่อย ได้แก่ มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ง่วงนอน ตื่นเต้นผิดปกติ นอนไม่หลับ อ่อนหล้า และกล้ามเนื้ออ่อนแรง อาจกดการหายใจ เมื่อให้ยาในขนาดสูงๆ หากใช้ยานี้ในระยะยาวๆ อาจมีผลข้างเคียงเกิดขึ้นได้ทั้งดานร่างกายและจิตใจ เช่น ตามัวเห็นภาพซ้อน ปวดศีรษะ ปัสสาวะกะปิดกะปอย พูดไม่ชัด มือสั่น ผื่นขึ้น เป็นต้น
การพยาบาล
1. ดูแลผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด เช่น อาการจากการหายใจถูกกด เป็นต้น
2. ไม่ควรใช้ยานี้เอง หรือรับประทานยานี้นานๆ หรือหยุดยาเองในทันที เพราะอาจติดยาและเกิดผลเสียได้
3. สังเกตอาการข้างเคียง เช่น เหนื่อยหล้า สับสน น้ำหนักเปลี่ยน ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ ตัวตาเหลือง ผื่นขึ้น ซึมเศร้า เป็นต้น ให้รายงานแพทย์ให้ทราบ
4. หลีกเลี่ยงการดื่มสุรา และยาที่กดประสาท เช่น Narcotics, Sedative, Tranquilizers ยานอนหลับ ยารักษาอาการแพ้หรือแก้หวัด เป็นต้น
5. หากมีอาการผิดปกติของ Agranulocytosis เช่น มีไข้ หนาวสั่น เจ็บคอ ไอ ปวดหลัง เป็นต้น ในรายงานแพทย์ทราบ
6. ยานี้อาจเป็นสาเหตุทำให้มึนงง ตาพร่ามัว ห้ามขับรถ ทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักรกล หรือของมีคม
7. ให้ผู้ป่วยเคลื่อนไหวช้าจากท่านอนเป็นนั่ง หรือยืน หากมีอาการวิงเวียน
8. ปากแห้ง หากลืมรับประทานยา ให้รับประทานยาทัรที่ที่นุกได้ แต่ไม่ต้องเพิ่มยาเป็น 2 เท่าในครั้งนั้น
ข้อบ่งใช้ ลดความความวิตกกังวลทั่วไป รวมทั้งอาการวิตกกังวลก่อนผ่าตัด ใช้รักษาการเกร็งตัวของกลามเนื้อ และควบคุมกล้ามเนื้อสั่นที่เกิดจากการชักและการถอนเหล้า และใช้สงบประสาท
การออกฤทธิ์ กดประสาทส้วนกลาง โดยเสริมฤทธิ์ Gamma aminobuty acid (GABA) ทำให้การยับยั้งและอุดกั้นการตื่นตัวของกระแสประสาท ทั้งส่วน Limbic และ Subcotical จึงทำให้สมองส่วนรับความรู้สึกถูกกด การเคลื่อนไหวจึงช้าลง การทำหน้าที่ของสมองเกิดการเปลี่ยนแปลง ทำให้เกิดอาการซึม มึนงง ง่วงหลับ
ผลข้างเคียง ไม่รุนแรง ที่พบบ่อย ได้แก่ มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ง่วงนอน ตื่นเต้นผิดปกติ นอนไม่หลับ อ่อนหล้า และกล้ามเนื้ออ่อนแรง อาจกดการหายใจ เมื่อให้ยาในขนาดสูงๆ หากใช้ยานี้ในระยะยาวๆ อาจมีผลข้างเคียงเกิดขึ้นได้ทั้งดานร่างกายและจิตใจ เช่น ตามัวเห็นภาพซ้อน ปวดศีรษะ ปัสสาวะกะปิดกะปอย พูดไม่ชัด มือสั่น ผื่นขึ้น เป็นต้น
การพยาบาล
1. ดูแลผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด เช่น อาการจากการหายใจถูกกด เป็นต้น
2. ไม่ควรใช้ยานี้เอง หรือรับประทานยานี้นานๆ หรือหยุดยาเองในทันที เพราะอาจติดยาและเกิดผลเสียได้
3. สังเกตอาการข้างเคียง เช่น เหนื่อยหล้า สับสน น้ำหนักเปลี่ยน ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ ตัวตาเหลือง ผื่นขึ้น ซึมเศร้า เป็นต้น ให้รายงานแพทย์ให้ทราบ
4. หลีกเลี่ยงการดื่มสุรา และยาที่กดประสาท เช่น Narcotics, Sedative, Tranquilizers ยานอนหลับ ยารักษาอาการแพ้หรือแก้หวัด เป็นต้น
5. หากมีอาการผิดปกติของ Agranulocytosis เช่น มีไข้ หนาวสั่น เจ็บคอ ไอ ปวดหลัง เป็นต้น ในรายงานแพทย์ทราบ
6. ยานี้อาจเป็นสาเหตุทำให้มึนงง ตาพร่ามัว ห้ามขับรถ ทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักรกล หรือของมีคม
7. ให้ผู้ป่วยเคลื่อนไหวช้าจากท่านอนเป็นนั่ง หรือยืน หากมีอาการวิงเวียน
8. ปากแห้ง หากลืมรับประทานยา ให้รับประทานยาทัรที่ที่นุกได้ แต่ไม่ต้องเพิ่มยาเป็น 2 เท่าในครั้งนั้น
วันพุธที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562
Glipizide
Glipizide
ประเภท ยาลดน้ำตาลในเลือดชนิดรับประทาน กลุ่มที่ออกฤทธิ์นานปานกลาง
ข้อบ่งใช้ ควบคุมภาวะน้ำตาลในเลือดสูงร่วมกับการคุมอาหารในผู้ป่วย
Non-insulin-dependent diabetes
การออกฤทธิ์ เพิ่มจำนวนอินสุลินรีเซพเตอร์ในเนื้อเยื่อต่าง
ๆ เช่น กล้ามเนื้อ ไขมัน ตับ เป็นต้น
และให้ไวต่อการจับอินสุลิน กระตุ้นและเพิ่มจำนวนเซลล์บีในตับอ่อน
ทำให้มีการหลั่งอินสุลิน เสริมฤทธิ์อินสุลินภายในเซลล์ ยับยั้งการจับและทำลายอินสุลินโดยตับ
ลดระดับกลูคากอน ยับยั้งการสร้างกลูโคสที่ตับ
ผลข้างเคียง
1.
เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ
2.
แพ้ยา
จะมีผื่นตามผิวหนัง หรือตุ่มพองและลอก
3.
อาการที่พบบ่อย
คือ คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย มีการกลั่งกรดเพิ่ม ปวดท้อง
4.
อาจทำให้ต่อมไทรอยด์ท่อทำงานน้อยกว่าปกติ
หรือเกิดคอพอกได้
5.
มีไข้
ผื่นสีแดงคล้ำ ซึ่งมักเป็นชนิด Maculopalar
6.
อาจทำให้เกิดอาการดีซ่าน
Leukopenia, Agranulocytosis
การพยาบาล
1.
แนะนำให้ให้ผู้มาโรงพยาบาลเพื่อตรวจร่างกายเป็นระยะ
ๆ เพื่อตรวจการทำงานของตับ ต่อมไทรรอยด์
2.
ติดตามผลการตรวจนับเม็ดเลือด
และประเมินภาวะโลหิตจางเนื่องจากขาดวิตามินบี12
3.
ติดตามผลการเจาะเลือด
เพื่อประเมินระดับน้ำตาลและกรดแลคติค และรับประทานก่อนอาหาร ½ เม็ด
Candesartan
Candesartan
ประเภท Angiotensin ll
receptor blocker และยาลดความดันโลหิต
ข้อบ่งใช้ รักษาโรคความดันโลหิตสูง
ใช้ได้ผลดีกับผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยที่มีระดับเรนินในพลาสมาสูง
การออกฤทธิ์ เป็น Nonpeptide
biphenylimidazole ยับยั้ง Angiotensin ll receptor antagonist
ที่เลือกเฉพาะต่อตัวรับชนิด AT1
ผลข้างเคียง ผู้ป่วยทนต่อยาได้ดี อาจมีอาการวิงเวียน อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ ความดันโลหิตต่ำขณะเปลี่ยนอิริยาบถ
และระดับโปแตสเซียมในเลือดสูง อาจเกิดอาการไอ ซึ่งพบน้อยมาก
ยานี้มีฤทธิ์เพิ่มการขับถ่ายกรดยูริก
การพยาบาล
1.
บันทึกสัญญาณชีพก่อนและให้ยา
2.
คำแนะนำผู้ป่วย
ดังนี้
2.1
หากมีอาการคลื่นไส้ให้รับประทานยาพร้อมอาหารหรือนม
หากมีอาการเวียนศีรษะ มึนงง ให้เปลี่ยนอิริยาบถช้า ๆ หากผิวหนังมีผื่นแดง คัน
มีไข้ หรือหายใจขัด หายใจมีเสียงหวีด บวมตามใบหน้า ตา ริมฝีปาก ลิ้น คอ
แขนและขาให้พบแพทย์ทันที
2.2
ให้เคลื่อนไหวช้า
ๆ จากท่านั่งเป็นยืน นอนเป็นนั่ง หลีกเลี่ยงการอาบน้ำอุ่นจัดหรือน้ำฝักบัว
การขับรถ หรือใช้ของมีคม เนื่องจากผู้ป่วยอาจมีอาการหน้ามืด ตาลาย เป็นลม
จากความดันโลหิตต่ำเมื่อเปลี่ยนท่า
2.3
ให้รับประทานยาตามแพทย์สั่ง
ไม่ควรซื้อยามารับประทานเอง เพราะยาบางตัวอาจทำให้ความดันโลหิตต่ำ เช่น ยากดประสาทส่วนกลาง
ยารักษาโรคหวัด ยารักษาโรคหอบหืด ยาลดน้ำหนัก ยาขับปัสสาวะ เป็นต้น
หากให้ยาเหล่านี้ร่วมกับยา Candesartan ยาอาจเสริมฤทธิ์กันทำให้ความดันโลหิตต่ำมากขึ้น
2.4
ให้ลดน้ำหนัก
ลดอาการเค็ม เลิกบุหรี่ และเลิกดื่มกาแฟ
ออกกำลังกายเพิ่มขึ้นเพื่อช่วยให้การรักษาที่ดีขึ้น
2.5
หากลืมรับประทานยาให้รีบรับประทานยาทันทีที่นึกได้
แต่ต้องห่างจากมื้อต่อไปนี้อย่างน้อย 8 ชั่วโมง และอย่ารับประทานยาเพิ่ม 2 เท่า
เนื่องจากอาจเกิดอันตรายได้
2.6
ไม่หยุดรับประทานยาเอง
หากมีอาการผิดปกติ เช่น เจ็บ มีไข้ ซึ่งเป็นอาการของ Agranulocytosis เป็นต้น ให้รายงานแพทย์ทันที
สมัครสมาชิก:
ความคิดเห็น (Atom)